ตร.กร้าวเอาคืน! สั่งตั้งด่านจับฝ่ายปรกครองใต้ แฉปมผู้ใหญ่บ้านกร่างจนลาม

เหตุการณ์เริ่มส่อเค้าบานปลายมากขึ้นตามลำดับ สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและอาสารักษาดินแดน (อ.ส.) จ.พัทลุง จับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจยศสิบตำรวจตรี (ส.ต.ต.) สังกัด สภ.ยะหา จ.ยะลา พร้อมอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก และปืนเอ็ม 16 รุ่นเอ็ม 4 ของทางราชการอีก 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 26 นัด ขณะขับรถผ่านด่านตรวจสามแยกท่ามิหรำ อ.เมือง จ.พัทลุง เพื่อเดินทางกลับไปยัง สภ.ยะหา เมื่อกลางดึกวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดย ส.ต.ต.ที่ถูกจับกุม ชี้แจงว่า หลังออกเวรที่ สภ.ยะหา จึงเดินทางกลับบ้านที่ จ.ตรัง ก่อนจะกลับไปทำงานอีกครั้ง ซึ่งที่ต้องพกอาวุธปืน เพราะพื้นที่ตั้งแต่ อ.จะนะ จ.สงขลา จนถึง อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นพื้นที่อันตรายและมีการยิงเจ้าหน้าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงจำเป็นที่ต้องมีอาวุธประจำกายไว้ป้องกันตัวในการเดินทาง ซึ่งแม้จะมีนายตำรวจชั้นระดับสูงมาช่วยยืนยัน แต่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจก็ไม่รับฟัง โดยอ้างว่าการนำอาวุธของราชการมาใช้นอกพื้นที่ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงตั้งข้อหาและดำเนินคดี
ขณะที่เรื่องดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนมากรู้สึกไม่พอใจที่ฝ่ายปกครองซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เหมือนกันแต่กลับไม่ยอมเข้าใจความจำเป็น เพราะต้องอยู่ในพื้นที่อันตราย จำเป็นต้องพกอาวุธเพื่อป้องกันตัว ขณะที่เมื่อเรื่องนี้ถูกนำเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนก็กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะทำการจับกุม มีผู้ได้ยินเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองรายหนึ่งซึ่งอยู่ที่จุดตรวจพูดออกมาว่า “ถึงไม่ใช่ทางหลวงก็จับไปก่อน” จึงคาดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นปัญหาต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากความไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับกุมผู้ใหญ่บ้านใน จ.กระบี่ คนหนึ่งซึ่งเป็นลูกน้องของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองคนหนึ่งในพื้นที่
โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงตั้งจุดตรวจที่ ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้ขับรถผ่านมาท่าทางมีพิรุธ จึงได้เรียกตรวจค้นพบอาวุธปืน 1 กระบอก จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร ส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวลึก ดำเนินคดีตามกฎหมาย
แต่ในระหว่างจับกุม ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวเกิดมีปากเสียงและด่าทอเจ้าหน้าที่ และยืนกรานจะให้ปล่อยตัว พร้อมทั้งยังต่อสายให้คุยกับบุคคลที่อ้างว่าเป็นปลัดอำเภอคนหนึ่ง แต่เนื่องจากตัวเองไม่ได้พกบัตรประจำตัวเพื่อยืนยัน เจ้าหน้าที่จึงต้องคุมตัวไปดำเนินคดี โดยเมื่อไปถึง สภ.อ่าวลึก ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์นับ 10 คนอ้างว่าเป็นพวกของผู้ใหญ่บ้านบุกตามไปที่โรงพัก และมีการถ่ายภาพรถตำรวจที่นำตัวผู้ใหญ่มาด้วย ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ทำการถ่ายภาพเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐานเช่นกัน
ขณะที่ต่อมาผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้อ้างภายหลังว่า ที่ถูกจับกุมพร้อมอาวุธเพราะกำลังออกตามหาวัวให้ลูกบ้าน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบการแจ้งความร้องทุกข์กับ สภ.อ่าวลึก ซึ่งเป็นสภ.ท้องที่ของผู้ใหญ่บ้านรายนั้น ก็ไม่พบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว มีการแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับวัวหายแต่อย่างใด
ขณะที่ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านในนาม สมาคมกานันผู้ใหญ่บ้าน จ.กระบี่ ยังได้ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายนอบ คงพูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่าถูกตำรวจทางหลวงกระบี่กลั่นแกล้ง จับอาวุธปืนขณะปฏิบัติหน้าที่ และหลังจากนั้นยังมีการพูดจาเชิงข่มขู่กันว่า จะมีการเอาคืนกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้าง กระทั่งเกิดเหตุที่ จ.พัทลุง ดังกล่าวขึ้นมา
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ภายหลังจากข่าวจับกุม ส.ต.ต.ประจำ สภ.ยะหา ขึ้นมาดังกล่าว ถูกนำไปส่งต่อๆ กันในกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจในภาคใต้ ก็ยิ่งทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจการกระทำของฝ่ายปกครองขยายวงมากขึ้น กระทั่งมีส่งข่าวผ่านวิทยุสื่อสารให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านสกัด และจุดตรวจต่างๆ จับกุมรถขอฝ่ายปกครองที่เดินทางออกนอกเขตทั้งหมด เพื่อเป็นการตอบโต้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความขัดแย้งที่กำลังทำท่าจะลุกลามดังกล่าวนี้ บรรดานายตำรวจและข้าราชการฝ่ายปกครองชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่ กำลังอยู่ระหว่างการหารือเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และแก้ไขปัญหาไม่ให้บานปลายออกไปอย่างเร่งด่วนแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดราม่า!ฝ่ายปกครองจับลูกน้องพกปืน ตร.ชายแดนใต้ถามเอาอะไรไปจับโจร

ความคิดเห็น